ประเทศเขมียว
![]() |
บทความนี้ถูกเซ็นเซอร์และถูกแบนในเจี๊ยวโดยรัฐบวมประเทศเจี๊ยว
ปล.เหตุกราดยิงสาวอนิเมะที่จตุรัสเทียนอันเหมียวไม่มีอยู่จริงนะจ๊ะ เชื่อกูสิอีฟาย!!! |
![]() |
บทความนี้มีเนื้อหาสนับสนุนหมอผีเขมร
กลุ่มฅนมีสี และพลพรรคกองทัพแดง โปรดข้ามหน้านี้ไปเพื่อไม่ให้ขยะแขยง ส่วนพลพรรคกองทัพเหลืองโปรดหลีกให้ไกลถ้าไม่อยากโดนเหมาว่าเป็นพวกเดียวกัน อนึ่งบทความที่มีแม่แบบนี้จะถูกถือว่าไม่เป็นกลางทันที |
Rocanochak Khmeow ព្រះរាជាណាចក្រខ្មៀវកម្កុឈៀ อาณาจักรเขมียว เคลมโบเดีย | |||||
---|---|---|---|---|---|
| |||||
คำขวัญ: C.E.I.O.U. Claimbosiae est imperare orbi universo ใด ๆ ในโลกล้วนเป็นของเคลมโบเดีย | |||||
เพลงชาติ: แซ็ตตรึงถ้วย มองนกฮูก | |||||
เมืองหลวง | พนมมือ | ||||
เมืองใหญ่สุด | พนมมือ | ||||
เดมะนิม | ชาวเขมียว | ||||
ภาษาประจำชาติ | ภาษาเขมียว ภาษาเจี๊ยว | ||||
รัฐบวม | หมอผีธิปไตย | ||||
‑ โครตระบิดา | พณฯ ทั่นสีจิ้นพูห์ | ||||
‑ นายีรัฐมนตร๊ก | สมเสร็จอัครเซลล์นาบ่ดีฮวยเซ็ง | ||||
‑ ที่ปรึกษาระดับโครต VIP | ทุจศิล กินชะมัด | ||||
ผู้กล้าประจำชาติ | นักรบคีย์บอร์ด | ||||
เริ่มสลักกำแพงหิน | ประมาณ 1643 ล้านปีก่อนยุคครีเทเชียส | ||||
สถุลตังค์ | ฝอยส์, อ่อนล้าสหรัฐ และ เหยิน | ||||
ศาสนา | ไม่มี | ||||
ประชากร | 17,811,191 | ||||
พื้นที่ | 23,918 | ||||
ความหนาแน่น | 120 | ||||
เขตเวลา | +7 | ||||
กลุ่มชาติพันธ์ | ชาวเขมียว ชาวชาม ชาวเจี๊ยว ชาวเทย | ||||
สินค้าส่งออกหลัก | ข้าว | ||||
สินค้านำเข้าหลัก | ชาวเจี๊ยว | ||||
ตะกวด | |||||
กีฬาประจำชาติ | ซกเก๋อ | ||||
รหัสอินเทอร์เน็ต | .Kmi | ||||
รหัสมือถือข้ามประเทศ | +0 | ||||
ขับรถทาง | ถนนลูกรัง |
ประเทศเขมียว หรือชื่อจริง (ซึ่งไม่มีคนจำ) คือ อาณาจักรเคลมโบเดียอันยิ่งใหญ่ เป็น ประเทศที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชยตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ติดกับประเทศเทยและล๊าว และเป็นมิตรอยู่คู่คนเทยมาอย่างช้านาน จนกระทั่งมีคดีส่งมอบเขาบร๊ะวิห่านให้คนเทยโดยไม่บอกกล่าว จนนานาประเทศอิจฉาเข้ามายุ่งจนถึงทุกวันนี้ ในอดีต เคยถูกประเทศเศษฝรั่งยึดครอง แต่ก็ได้รับเอกราชในที่สุด ปัจจุบัน ปกครองด้วยระบอบหมอผีธิปไตย
ประวัติศาสตร์[แก้ไข]
จากการพิสูจน์อายุโดยอุปกรณ์ของบิ๊กตู่ ที่ถ้ำกลางเลสเบี้ยนทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเขมียว บอกได้ว่า ผู้คนที่รู้จักทำมนต์ดำอาศัยอยู่ในถ้ำนี้ตั้งแต่ 4200 ปี ก่อน ซึ่งพอจะสรุปได้ว่าชาวเขมียวกลุ่มแรกใกล้เข้ามาในดินแดนนี้นานก่อนหน้านั้น แล้ว มีผู้พบหลักฐานเก่าแก่ไปกว่านั้นคือ วัฒนธรรมการใช้จตุกามรามเมพในการล่าสัตว์และทำอาหาร กะโหลกศีรษะลงอาคมสำหรับพิธีแต่งงาน อายุราว 1500 ปีก่อน ชี้ให้เห็นว่าชาวเขมียวยุคก่อนประวัติศาสตร์มีความละม้ายคล้ายคลึง กับชาวเขมียวในปัจจุบันซึ่งมีการผสมสายเลือดกับชาวเจี๊ยวและเวียดกาม
สมัยจักรวรรดิขม[แก้ไข]
ต่อมา ได้มีวีรบุหรี่ได้รวบรวมหมู่บ้านต่างๆเป็นปึกแผ่น ก่อตั้งเป็นราชอาณาจักร กอปรกับมีพราหมณ์เข้ามาหาอุปกรณ์เพื่อทำของพอดี จึงรับวัฒนธรรมการใช้มนต์ดำชั้นสูง และเทคนิคการตระบัดสัตย์ประเทศเพื่อนบ้านมาด้วย รวมถึงแนวคิดในเทวราชาชูรส ทำให้ผู้นำสูงสุดในขณะนั้น ตั้งตนเป็นจักรภพ เอ่อ... จักรพรรดิ และตั้งชื่อว่า "ขม" ยึดครองและปกครองแผ่นดินน้อยใหญ่มากมาย แล้วเพื่อประกาศอารยะขัดขืนศักดาความยิ่งใหญ่ จึงต้องมีการสร้างปราสาทหิน และสิ่งก่อสร้างต่างๆ ไว้มากมายตามชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน แต่กระนั้น ชนในจักรวรรดิขม ก็มักนิยมเรียกตัวเองว่า "เขมียว" เพราะฟังดูน่ารักน่าแอ๊บแบ๊วมากกว่า
ในยุคของ "บร๊ะเจ้าใช้ไปเอามันที่ 2" ทรงโปรดการก่อสร้างมาก จึงสั่งให้ก่อสร้างประสาทราชเวียงมากมาย รวมไปถึงนครวัดวาอารามด้วย ซึ่ง นครวัดวาอารามนี้ เป็นผลงานที่พระองค์ทรงประทับใจมาก จึงทรงสั่งให้วางกับระเบิดเอาไว้ กันไม่ให้ใครเข้าไปในนครวัดแห่งนี้ แต่อนิจจา คนวางกับระเบิดดันวางล้อมจากนอกเข้าใน ทำให้เดินออกไม่ได้ เลยตัดสินใจทำพิธีเสี่ยงทายว่าจะเดินออกทางไหนดี แต่อนิจจา (อีกที) พวกเขาเหยียบโดนกับระเบิดแต่ก้าวแรก นครวัดวาอารามเลยระเบิดขึ้นอย่างสวยงาม
เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการพลีชีพของนักวางกับระเบิดเหล่านั้น ชาวเขมียวจึงใช้สัญลักษณ์ นครวัดวาอารามระเบิดเป็นสัญลักษณ์ของประเทศจนทุกวันนี้ และใช้ประดับไว้บนธงชาติของตนด้วย
อย่างไรก็ตาม บร๊ะเจ้าใช้ไปเอามันก็ยังทรงไม่หยุดงานก่อสร้างของบร๊ะองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อบรรดาพ่อมดหมอพี่แนะนำให้สร้างเพื่อความเป็นสิริมงคล จึงทรงสั่งสร้างอย่างไม่ลืมหูลืมตา กว่าจะทรงรู้ตัว ก็ทรงติดหนี้ IMF ไปหลายล้านแล้ว ด้วยเหตุนี้ จักรวรรดิขมจึงเสื่อมอำนาจลง
ต่อมา เมื่อในเมืองพะโล้มีผู้มีบุญผู้หนึ่ง นามว่า "พระหล่น" ได้ปฏิวัติ ต่อต้านจักรวรรดิขมที่กดขี่ข่มเหง บังคับให้ทำจตุกามแบบ 1 ตำบล 1000 ผลิตภัณฑ์ โดยเริ่มจากการเอาชะลอมที่แอบแปะหมากฝรั่งไว้ตรงก้น แล้วตักน้ำขึ้นมาได้โดยที่น้ำไม่รั่ว ทำให้องค์จักรพรรดิตกพระทัยมาก บรรทมหลับนิมิตมารฝันร้ายทุกคืน จึงสั่งให้ประหารพระหล่นเสีย ด้วยการส่ง Rouge นักดำดินไปลอบฆ่า แต่พระหล่นหนีไปบวชพอดี นักดำดินเลยไม่รู้ว่าพระหล่นหน้าตาเป็นไง จักรพรรดิพิโรธมากๆ จนพระกระยาหารไม่ย่อย สิ้นพระชนม์ทันที แล้วจักรวรรดิขมก็ค่อยๆ เสื่อมสลายลงนับแต่บัดนั้น พร้อมๆ กับชาติเกิดใหม่ข้างบ้านที่น่ารักน่าชัง นั่นคือ ชาวเทยนั่นเอง
หลังการเกิดมาของราชอาณาจักรเทย อาณาจักรขมก็อ่อนแอลงๆ แต่ก็ยังไม่เลิกซ่า มีครั้งหนึ่ง กษัตริย์ขมองค์หนึ่งทรงพระเปรี้ยว ตรัสขึ้นว่า "อั๊วอยากได้หัวของกษัตริย์ชะเวยมาดูเล่นที่นี่หว่ะ" ซึ่ง ถ้าทรงตรัสรอบเดียว ก็คงไม่มีใครเอาเรื่องอะไร แต่ดันทรงพระเปรี้ยวตรัสหลายรอบ 3 เวลาหลังพระกระยาหาร เรื่องเลยไปถึงพระกรรณกษัตริย์ชะเวยเข้า เลยทรงกริ้ว กรีฑาทัพมาตีขม แล้วเอาหัวกษัตริย์ขมองค์นั้นไปดูเล่นที่วังแทน
มีตำนานเล่าขานกันในช่วงนี้ว่า มีคนเขมียวที่พูดภาษาจีนได้นิดหน่อย โดนโดเรม่อนลักพาตัวไปพบกับ "เหมาหมดเลย" เหมาหมดเลยจึงสอนว่า
![]() |
เอ็งมาข้ามุด เอ็งหยุดข้าแหย่ เอ็งแย่ข้าตี เอ็งหนีข้าตาม |
![]() |
แต่ด้วยความที่เขา "พูกจีงล่ายนิกโหน่ยอ่า" เขาเลยตีความผิด เข้าใจว่าเหมาสอนว่า
![]() |
ท่านมาเราก้มกราบ ปากซึมทราบน้ำใจทั่น มึงอย่าเผลอกูแล้วกัน เพราะกูนั้นจะปล้นมึง |
![]() |
เขาจึงเอาแนวคิด (ผิดๆ) นี้มาสอนชาวเขมียวและเพื่อให้เข้ากับแนวคิด (ที่เข้าใจมาผิดๆ) ชาวเขมียวขึงเปลี่ยนชื่อเมืองหลวงเป็น "พนมมือ" และเรียกประเทศตัวเองว่า "กรรมบูชา" เพราะใครก็ตามที่ชาวเขมียวบูชาจะต้องมีกรรม (โดนตนตีท้ายครัว เช่นคนเทยที่กำลังโดนอยู่) อย่างแน่นอน ภายหลังเพี้ยนมาเป็น "กรรมกูเชี้ยว" หรือ "กรรมกาเจี๊ยว" นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม มีบางตำนานกล่าวว่า คนๆ นั้นไม่ได้โดนลักพาตัวไปพบเหมาหมดเลยหรอก แต่ไปพบกับหยงต่างหาก
สมัยอาณานิเกรียนใต้เศษฝรั่ง[แก้ไข]
เมื่อจักรวรรดิขมอ่อนแอ ทำให้ประเทศเศษฝรั่งในช่วงล่าอาณานิคม นำโดย พระเจ้าลุยจิที่ 69 (อนุชาของพระเจ้ามาริโอ้) เข้ามายึดครองได้สำเร็จ และดูดทรัพยากรในประเทศจนเกือบๆ จะเกลี้ยง แถมยังล้างสมองชาวเขมียวให้เคารพในพระคุณ (?) ของเศษฝรั่งอีก แล้วจากทุกบ้านที่มีจตุกามและตะกรุดลงยันต์ กลายเป็นว่า ชาวเขมียวจะต้องประดับไม้กางเขนห้อยหัว และภาพซาตานไว้ในบ้านแทนทุกคน ตามผู้เผยแผ่ศาสนาโอตาคุและลัทธิมารจากเศษฝรั่ง
แต่ในช่วงสงครามชิงถ้วยฟุตบอลโลกครั้งที่2 ประเทศยุ่นปี่ได้เข้ายึดครองเขมียวไว้ แล้วปลดผู้ปกครองเขมียวที่เป็นชาวเศษฝรั่งและผู้นิยมเศษฝรั่งออกไป เมื่อสงครามชิงถ้วยฟุตบอลโลกครั้งที่2 ยุติลง เศษฝรั่งผู้ถูกประเทศยุ่นปี่ขับไล่ออกจากเขมียวเป็นฝ่ายชนะสงคราม เขมียวจึงต้องตกเป็นของเศษฝรั่งอีกครั้งหนึ่ง
สมัยเขมียวแดงยึดประเทศ[แก้ไข]
จากนั้น ช่วงสงครามร้อน (Hot Wars) ลัทธิคอมมี่ได้แพร่จากประเทศจีน เวียดกาม มาสู่เขมียว จนทำให้เกิดการก่อตั้ง "กลุ่มเขมียวแดง" ขึ้นมา ถล่มรัฐบาลเดิม และยึดครองประเทศได้สำเร็จ จากนั้น กลุ่มเขมียวแดงก็ได้ทำในสิ่งที่แม้แต่พรรคนาฮีก็ไม่กล้าทำ นั่นคือการบูชายัญชาวบ้านไปทำแหนม แล้วส่งไปเป็นอาหารกระป๋องบริจาคแก่ประเทศยากไร้ทุกหนแห่ง จนมีชาวบ้านแห่กันมาบูชายัญตัวเองกันยกใหญ่ ประเทศสหรัฐอมาริเกย์เห็นดังนั้นแล้วรู้สึกริษยา เอาทหารที่กำลังถล่มเวียตกามเหนือ มาไล่ฆ่าชาวบ้านและรัฐบาลอย่างโหดเหี้ยมจนเกลี้ยง จนประเทศแทบล่มสลาย แล้วก็ถูกยัดเยียดความคิดเรื่อง ประชาธิปไตย จนต้องเปลี่ยนแปลงการปกครองจนเป็นระบอบหมอผีธิปไตยจนถึงบัดนี้ (ต่างกับประชาธิปไตยตรงที่ หมอผีธิปไตยเป็นของหมอผี โดยหมอผี และเพื่อหมอผี ประชาชนธรรมดา ไม่มีสิทธิ์เสียงอะไร) ต่อมา ได้มีการสร้าง พิพิธภัณฑ์ล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide Museum) เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแก่ผู้ล่วงลับที่ถูกเกย์อูฐเตาฆ่า
สมัยล่าโบราณสถาน (ปัจจุบัน)[แก้ไข]
พักนี้เขมียยวกำลังมือขึ้น ได้ฟ้องศาลโรคว่า ปราสาทเขาพิมายและปราสาทต่างๆ ไปจนถึงที่ทุขโขเทย และ อายุดทายา สร้างด้วยสถาปัตยกรรมขอม จึงเป็นของเขมียวโดยกรรมสิทธิ์ ศาลโรคตัดสินให้รัฐบวมเรดมูลทุจศิล ยกดินแดนดังกล่าวให้เขมียวทั้งหมด เขมียวร่ำรวยจากการให้เช่าดินแดนที่ได้ให้ชาติมหาอำนาจ
ต่อมารัฐบวมของสมเด็จวุ้นเส้นได้จับมือกับประเทศเจี๊ยวในการพัฒนาประเทศ
นอกจากนี้ยังร่วมแบ่งเขตแดนอ่าวเทยร่วมกับมาเลซุย สามารถปิดอ่าวเทย และยึดอ่าวเทยตอนเหนือได้ จึงได้ก๊าซธรรมชาติจำนวนมาก จึงขายสัมปทานให้ต่างชาติได้ตังจำนวนมากอีกเช่นกัน แต่ว่าถูกกองเรือเยลโล่ซันก่อกวน ทำให้ต่างชาติไม่กล้าลงทุน เขมียวและมาเลซุยจึงรวบรวมกองเรือได้หลายร้อยลำ มีกองเรือจากชาติหมาอำนาจมาร่วมอีกจำนวนมาก เพื่อโจมตีฐานทัพเรือเยลโล่ซัน แต่ถูกหลอกให้เข้าไปในเขตอ่าวที่มีทุ่นระเบิดและหินโสโครก จึงถูกทำลายอย่างง่ายดาย ทำให้เขมียวแพ้สงครามโลกครั้งที่ห้าในที่สุด
ภูมิอากาศและภูมิประเทศ[แก้ไข]
ภูมิประเทศ[แก้ไข]
ประเทศเขมียวตั้งอยู่ใจกลางแอ่งขนาดยักษ์ ซึ่งตั้งอยู่บนเขายักษ์ที่อยู่ลึกลงไป 50 เม็ด มีลักษณะคล้ายๆ กับกระทะล้อมรอบด้วยเทือกเขา โดยมีทั้งเทือกเขาที่เป็นขอบกระทะและเทือกเขาหมอนรอง ทุกๆ หนึ่งหมื่นปีมันจะเอนไปข้างหนึ่งเนื่องจากความไม่เสถียรของโลก นักวิชากามเขมียวเป็นห่วงว่าเวลาที่เขมียวจะเอียงไปอีกด้านนั้นใกล้เข้ามาแล้ว จึงต้องทำการแย่งประสาทจากประเทศอื่นมาให้ได้มากที่สุด เพราะการเอียงนั้นจะไปกระตุ้นภูเขาไฝยักษ์จะฉีดลาวาออกมาจากทะเลสาบเขมียวซึ่งอยู่ใกล้เมืองหลวง
lnwบร๊ะเจ้า[แก้ไข]
ดูที่ภาพด้านซ้าย นอกนั้นเป็นข้อมูลปกปิด
ภูมิอากาศ[แก้ไข]
ประเทศเขมียวมักจะมีหิมะถั่วดำตกบ่อยๆ ผิดกับประเทศเทยลิบลับ แต่นั่นก็นานมาแล้ว พระมหากาสาดเขมียวในสมัยอะยัดทะยาพระองค์หนึ่งได้กล่าวไว้ว่า
![]() |
อ่า.... ปีเขมรศักราชที่ @@@@@ มีหิมะตกลงมาจากฟากฟ้า มันมีรูปร่างคล้ายถั่วดำ แต่ก็เย็น เรากินมัน แล้วชาวบ้านก็เอากันทั้งประเทศ เราเอาน้ำกระทะทองแดงมาถมลงในบึงกลางเมือง (ทะเลสาบเขมียว) เรามีความสุขมาก ขอบพระทัยท่านเทพเจ้า | ![]() |
พระมหาราชาที่บ่ดีข้อมูลปกปิด |
เศรษฐกิจ[แก้ไข]
เศรษฐกิจหลักของประเทศ[แก้ไข]
อุตสาหกรรมเพลง นักแต่งเพลงที่นี่สามารถนำเพลงที่ฮิตติดหูจากทั่วทุกมุมโลกมา รีมิกซ์ คัฟเวอร์ ทริบิวซ์และสแครชแผ่น ดนตรี+ทำนองเดิม ๆ ทั้งดุ้น มาเปลี่ยนเนื้อร้องให้เป็นภาษาเขมียว นอกจากนี้ประเทศเจี๊ยวยังมีส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศด้วยจำนวนเงินกู้ที่สมเด็จวุ้นเส้นขอยืมมา ทำให้เมืองสำคัญอย่างพนมมือและท่านผู้นั้นวิลล์เต็มไปด้วยธุรกิจที่เป็นคนเจี๊ยวเต็มไปหมด
คนดังในประเทศ[แก้ไข]
นพดล ซาหมัก สุกรเพศ- เปนนักร้องที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขมียว แล้วนำไปออกแสดงเวิร์ลทัวร์คอนเสริต์ ตามเวทีงานวัดภายในประเทศ
การสื่อสาร[แก้ไข]
ฉิบหาย ไม่มีอะไรดีสักอย่างอีดอกทอง ควย!
สังคม[แก้ไข]
ชนชาติ[แก้ไข]
- เขมียว 90%
- เวียดกาม 5%
- เจี๊ยว 3%
- อื่นๆ 2%
การเมียการปกครอง[แก้ไข]
มีกองบัญชาการใหญ่ BM21 อยุ่ที่ปราสาทเขาบร๊ะวิห่านแต่ภายหลังถูกยูริยึดไปจึงย้ายไปนครวัดวาอารามระเบิด โดนมีสมเด็จวุ้นเส้นเป็นประมุข
ศาสนา[แก้ไข]
- หมอผี นิกายตัณตระ 47%
- ศาสนาคนมีการศึกษา 31%
- ไม่นับถือศาสนา 12%
- หมอผี นิกายไผยกะ 5%
- หมอผี นิกายวางืย 2%
- ศาสนาซลาตัน 2%
- อื่นๆ 1%
การศึกษา[แก้ไข]
แบ่งการเรียนการสอนได้เป็นสองสายประเภทใหญ่ๆ คือ ไสยเวทยศาตร์ และ กาฬมันตศาสตร์ ซึ่งทั้งสองเป็นที่นิยมของชาวเทยเป็นอันมากจึงทำให้มีชาวเทยข้ามไปเรียนเป็นอันมาก โดยคณะหลักๆ ที่ชาวเทยชอบเรียนคือ คณะปิโตร(น้ำมัน)พรายเคมี คณะวิศวกระบือธนูศาสตร์ คณะโอสถบัญชาเภสัช คณะรัฐประหารศาสตร์ เป็นต้น
ศิลปะ ประเพณี และวัฒนธรรม[แก้ไข]
ประเทศเขมียวกับประเทศเทยมีศิลปะ ประเพณี และวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกันจนแทบแยกไม่ออก ต่างกันแค่อักษรและภาษาเท่านั้น โดยทั้งสองประเทศมีประเพณีเทศกาลอันดีงทรามที่ปฏิบัติดีต่อกันมาอย่างยาวนาน หนึ่งในนั้นคือ เทศกาลสงกรามต์ โดยผู้น้ำทั้งสองประเทศจะสั่งยิงกระสุนปืนใหญ่ข้ามฝั่งผ่านเขามะพิหานเพื่ออวยพรให้แก่กัน ทั้งยังจัดส่งตะเหิรมาสาดกระสุนแสดงความยินดีต่อกันอีกด้วย ทำให้สร้างความคึกครื้นปลื้มใจให้ประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าในบริเวณนั้นเป็นอย่างยิ่ง
อาหารและเครื่องดื่ม ยอดนิยม[แก้ไข]
- ห่อหมกไข่วุ้นเส้น กล่าวกันว่าถ้ามาเขมียวแต่ไม่ได้รับประทานห่อหมกไข่วุ้นเส้น ก็เสมือนว่ามาไม่ถึงประเทศเขมียว ซึ่งมีวิธีการรับประทานโดยพนมมือขึ้นที่หน้าแล้วหันเข้าไปใกล้จานห่อหมกไข่วุ้นเส้น เพื่อรับกลิ่นอันหอมหวนของห่อหมกไข่วุ้นเส้นที่ผ่านมาตามช่องของผ่ามือ แล้วก้มศีรษะลงรับประทานด้วยความเอร็ดอร่อย โดยอาหารจานนี้นักการเมียเทยชอบข้ามมารับประทานกันมาก
- บร๊ะมี่
- เคล้าเลือด
- อ้าผิง
- แกง
- ขนมปังเศษฝรั่ง
- ขนมฉีก
- เป๋า
กีฬา[แก้ไข]
ชิงบร๊ะวิหอน ขับMB21ยิงเล่น
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ[แก้ไข]
- ปราสาทหินเขาบร๊ะวิห่านปัจจุบันถูกยูริยึดไปแล้ว
- ปราสาทยาง นครวอท นครทูม
- โดนเกย์ สาป (โตนเล สาบ)
- แท่งเดือยยักษ์ใต้กรุงพนมมือ
สินค้าที่กำลังขาดแคลน[แก้ไข]
- เกย์อิชา
- การ์ตูนย้อมใจ
- ปูมะพร้าว
- เทปวงเมก้าเดธ
- ของก๊อป