อะเด้า ซิสเลอร์

จากไร้สาระนุกรม — ส่วนหนึ่งของโครงการไร้สาระนุกรมเสรี แหล่งรวบรวมเรื่องราวตลกขบขันและบิดเบือนข้อเท็จจริง
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา

ฮิตเลอร์หนุ่ม.jpg
ฮิตเลอร์หนุ่ม.jpg
แถลงเกรียน

หน้านี้ได้ทำการล้อเลียนผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว
เราจึงขอไว้อาลัยให้กับท่าน อะเด้า ซิสเลอร์ ด้วย


“เจ้าเป็นแล้ว ”

~ อซาธอท กล่าวถึง ซิสเลอร์

“เจ้าก็ตื่นแล้วเช่นกัน ”

~ ซิสเลอร์ กล่าวถึง อซาธอท
Wikisplode.gif
สำหรับผู้ที่ไร้อารมณ์ขันสิ้นดี เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่วิกิพีเดียมีบทความสรรเสริญเยินยอนักการเมียอยู่แล้ว ที่นี่!
ซิสเลอร์ ผู้นำที่โลก รอ...

อะเด้า ซิสเลอร์ (อังกฤษ: Adult Sizzler, ยันละเมอ: Ädult Zissler) เป็นนักการเมืองสันดานสัญชาติออสเกรียนมาตั้งแต่ลืมตาดูโลก ซึ่งต่อมาได้รับสัญชาตินาซันเยอรมีในภายหลัง โดยเขาเป็นผู้นำเผด็จเกรียนที่ชนะการเลือกตั้ง อีกทั้งยังเป็นผู้นำที่ใจดีที่สุดในโลก จนได้รับรางวัลโนเบลมาแล้วทั้ง 5 สาขา อีกทั้งยังเป็นแชมป์ชายหนวดงามถึง 56 สมัย เป็นดีไซเนอร์ฝีมือฉกาจผู้ออกแบบธงสวัสดีค่ะ อีกทั้งยังออกแบบเรือนจำชนิดขังลืมและถนนอู้ดโตบานอีกด้วย นับว่าเป็นคนดีที่โลกรอเลยทีเดียว และที่สำคัญ ซิสเลอร์ยังเป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซิสเลอร์เป็นชาวออสเกรียนใจดี มีเชื้อสายชิว แถมยังมีเมียเด็กกว่าตั้งเกือบ 30 ปี!?!

วัยเด็ก[แก้ไข]

แหม ไว้หนวดทรงนี้ตั้งแต่เด็กเลยนะ อิ อิ
วัยเด็กนั้น ซิสเลอร์แสนจะน่ารัก
ผลงานชิ้นเอกของซิสเลอร์

อะเด้า ซิสเลอร์ ถูกพระเจ้าส่งมาเกิดบนโลกมนุษย์ใบนี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 เมษายน โดราศักราช 1889 ที่ใต้สุสานแห่งหนึ่งในเมืองบาร์เน่า ประเทศออสเกรียน พ่อของเขามีเมียไม่เยอะ และแม่ของเขาก็เป็นหนึ่งในเมียไม่เยอะเหล่านั้น ในวัยเด็กซิสเลอร์ขาดความเวลาและความอบอุ่นจากบิดา เนื่องจากขาดผ้าห่มและซิสเลอร์ ซึ่งแม่ของเขาก็เกิดเห็นใจในปมด้อยของซิสเลอร์ จึงได้เซ้งบ้านไปเปิดร้านขายถ่านและนาฬิกา ทำให้ซิสเลอร์มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมั้ง ถึงแม้พ่อเขาจะไม่ต้องการความอบอุ่นโดยยังเปิดร้านขายน้ำแข็งใสอยู่ฝั่งตรงข้ามก็เถอะ แต่ซิสเลอร์ก็ไม่ชอบให้ใครมาวิจารณ์พ่อเขาในด้านดีๆ ซึ่งในวัยเด็ก ซิสเลอร์นับได้ว่าเป็นเด็กที่น่าสมเพชมากเลยทีเดียว เยสควยเอ้ย

วัยรุ่น[แก้ไข]

ว่ากันว่า ซิสเลอร์เป็นนักเกรียนที่เกรียนเรียนเก่งมากๆๆๆ ถึงมากที่ซู้ด!!! โดยเฉพาะวิชาศิลปะ และประวัติศาสตร์ และด้วยผลงานที่แสนดีเลิศประเสริฐศรีทางด้านศิลปะนี้ ซิสเลอร์จึงได้รับโอกาสเรียนต่อที่โรงเรียนเตรียมรัฐประหาร ทำให้มีโอกาสรู้จักกับนักเรียนรุ่นน้องชาวเทยคนหนึ่ง ซึ่งทั้งสองสนิทสนมกันมาก ขนาดนักเรียนรุ่นน้องคนนั้นขโมยเอาเครื่องหมายสวัสดีค่ะไปตั้งพรรรรรรรคการเมียคนใหม่ในเมืองไทยอย่างหน้าด้านๆ ในเวลาต่อมา จนต่อมาซิสเลอร์ก็เรียนจบ จนได้ศึกษาต่อในมหาลัยมหาหลอกลวง ในคณะศิลเปลอะ แต่เขาก็ผิดหวัง เพราะทางมหาลัยเห็นว่าเขาไว้หนวดไม่เหมาะสม ทำให้เขาต้องตกงานอยู่พักใหญ่

โฆษณารถสามล้อ

หลังจากตกงาน เขาก็ไม่มีรองเท้าจะใส่ ไม่มีมีดโกนหนวด ไม่มีเงินลงกระเป๋า ไม่มีอาหารลงท้อง นานเกือบ 3 ปี แต่ในที่สุด เขาก็ถูกจ้างจนได้ โดยเขาได้ทำงานเป็นผีเซนเตอร์โฆษณาสมุดบันทึกให้กับบริษัทมะม่วง แต่ต่อมาเขาก็ได้ทำงานโฆษณารถสามล้อ และน้ำหมักดับกลิ่นรักแร้อีกด้วย และต่อมาเขาก็ได้เป็นจิตรกรสมดังใจในเวลาต่อมา แต่ก็ตกงานเช่นเคย

สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง[แก้ไข]

เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่งอุบัติขึ้นมาในทวีปยูหลบ ซิสเลอร์ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ก็มิอาจอยู่เฉยได้ เขาจึงหนีทหารในออสเกรียน ไปโผล่เป็นทหารอยู่ที่ยันละเมอเสียะดื้อๆ และเขาก็โดนเด้งไปเป็นอยู่แนวหน้าที่เบลเหยียม และก็เด้งมาช่วยพวกเวียดกงรบอยู่ที่เดียนเบียนฟู ก่อนจะโคจรไปรบต่อที่สปาเกตตี้สเบิร์ก ซึ่งสร้างความสับสนให้กับซิสเลอร์เป็นอย่างมาก ซึ่งครั้งล่าสุด ทางการแม่ทัพเยอรมันเกิดอาการเมาเล็กน้อย จึงส่งซิสเลอร์ไปรบที่เกาะกินแลนด์ ซึ่งเหตุการณ์ทำให้ซิสเลอร์ต้องจดจำจนวันตาย เขาได้บรรยายความรู้สึกลงในหนังสือ การตบยุงของข้าพเจ้า ว่า...

กูร้อนนนสัสสสสสส...!!!

หลังจากผ่านการรบที่แสนทรหดจากเกาะกินแลนด์ แต่แล้วซิสเลอร์ก็ประสบความสำเร็จความใคร่ในการชนะการแข่งขันโบว์ลิงกระชับมิตรที่เบลเหยียม โดยลงแข่งในนามกองทัพเยอรมัน ทำให้รัฐบาลเยอรมันเห็นความดีของเขา จึงแต่งตั้งให้เขาเป็นสิบโท พร้อมมอบเหรียญหน้าด้านกล้าหาญ แต่ระหว่างการแข่งขัน ซิสเลอร์ได้รับบาดเจ็บแสนสาหัสทรมาณปางตายจากแก๊สไข่เน่า ทำให้เขาต้องกลับเยอรมันก่อนที่เยอรมันจะแพ้สงคราม ควยยย

ซิสเลอร์ชนะการแข่งขันโบว์ลิ่ง ทำให้ได้เหรียญกล้าหาญ

หลังจากนั้น ซิสเลอร์ก็ประสบความสำเร็จความใคร่อีกครั้ง จากการชนะการแทงบอลและลงเล่นฟุตบอลโลกที่แอฟริกวนใต้ลงไปทางทิศเหนือ โดยซิสเลอร์เป็นดาวอภิมหาซัลโวประจำการแข่งขัน พร้อมมอบเหรียญกล้าหาญอีกเหรียญ และซิสเลอร์ก็ถูกหมามองชักว่าวแล้วให้ไปเล่นสโมสรบาร์เกย์โล้ดน่า ทีมที่เมพที่สุด และมีซูเปอร์สตาร์อย่างเม็ดสีอยู่ในทีมอีกด้วย

ซิสเลอร์ชนะการแข่งขันฟุตบอลโลก ทำให้ได้เหรียญกล้าหาญอีกเหรียญ
นี่คือนายเม็ดสี ซุปเปอร์สตาร์ของทีมบาร์เกย์โล้ดน่า เพื่อนร่วมทีมของซิสเลอร์

การเมีย[แก้ไข]

ว่ากันว่า ซิสเลอร์ฉายแววนักการเมืองตั้งแต่วัยเยาว์

หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ซิสเลอร์ก็ได้กลายเป็นวีรบุรุษสงคราม เขาก็ได้ลงสนามเลือกตั้งที่โรงเรียนอนุบาลบ้างหนองนาดำ ในตำแหน่งประธานนักเรียน แต่เขาสอบตก จึงต้องสอบซ่อมที่เขต 1 ที่กรุงเบลอลินในนามพรรคสังคังชาตะนิยม หรือพรรคนาซันในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเพียงพรรคการเมืองเล็กๆพรรคหนึ่งเท่านั้นเอง และมีแววว่าเจ๊ง แต่พอได้ซิสเลอร์เข้าไปบริหาร ก็เจ๊งใน 3 วิ แต่เพื่อความอยู่รอดของพรรค ซิสเลอร์จึงตัดสินใจที่จะเสียสละหนวดด้านข้างออก ทำให้เขามีหนวดเหลือแค่พุ่มเดียวเหมือนดังปัจจุบัน ทำให้เกิดหนวดทรงใหม่ที่โดนใจขาโจ๋ ทำให้พรรคนาซันได้รับคะแนนเสียงถล่มถทายจากประชาชนที่หลงใหลในหนวด

ชีวิตในเรือนจำ[แก้ไข]

หนังสือการตบยุงของข้าพเจ้า
ว่ากันว่า นี่อาจเป็นหนังสืออีกเล่มที่ซิสเลอร์เขียน

หลังจากเล่นการเมืองมานาน ซิสเลอร์ก็ตัดสินใจใช้กองกำลังทหารทำการรัฐประหารในวันที่ 19 กันยายน ด.ศ. 1923 แต่ดันไม่สำเร็จ ก็เลยถูกจับไปกินข้าวแดงในคุกถึง 8 เดือน และในระหว่างถูกคุมขังนี้เอง เขาก็ได้เขียนหนังสือ การตบยุงของข้าพเจ้า เพื่อบรรยายความในใจ และความรำคาญยุงที่มีมากมายในห้องขัง โดยกำหนดการเดิมของซิสเลอร์คือ เขียนให้ได้ 8,000 หน้า แต่เขากลับเขียนได้ถึง 8,000,000 หน้า (เพราะเขาถูกขังลืมเกินกำหนด โดยโดนขังไป 2,678 ปี)

หลังจากถูกขังลืมในคุกมานานกว่า 8 ปี ซิสเลอร์ก็ได้จัดการปราศรัยต่อต้านยุงในเรือนจำของเขา ทำให้นักโทษจำนวนมากมีแนวคิดต่อต้านลัทธิยุงนิยม ซึ่งทางสมาคมยุงเยอรมันก็ได้ร้องเรียนไปยังผู้คุมเรือนจำว่าการกระทำของซิสเลอร์อาจจะทำให้ยุงในเรือนจำอยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย แต่ทางเรือนจำก็ยังยืนยันขังลืมซิสเลอร์ต่อไป ซึ่งทางสมาคมยุงก็กดดันเรือนจำต่อไปด้วยการขนย้ายประชากรยุงออกจากเรือนจำจนหมด และยังขู่ว่าจะขนย้ายยุงออกนอกเยอรมันให้หมด

ซึ่งข้อเรียกร้องให้เนรเทศซิสเลอร์ของสมาคมยุงนี้ ก็ร้อนไปถึงท่านประธานาธิบดีพอล หินดินเบิร์ก ซึ่งท่านประธานาธิบดีเห็นว่าถ้าหากชาวยุงอพยพออกนอกประเทศแล้ว ชาวแมลงวัน และชาวแมลงสาบ ก็ต้องอพยพออกไปตามแน่นอน จึงมีคำสั่งให้ปล่อยตัวซิสเลอร์ออกมาจากคุกในที่สุด ทำให้ซิสเลอร์กับยุงสนิทสนมกันมากขึ้น

การเมีย (อีกรอบ)[แก้ไข]

ซิสเลอร์ขณะกำลังหาเสียง ด้วยนโยบายประชานิยม

หลังจากถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว พรรคนาซันของซิสเลอร์ก็กลับมาได้ที่รังเกียจนิยมของชาวเยอรมัน ชาวยุง และชาวแมลงสาบ เพราะมีนโยบายต่อต้านการใช้ยากันยุงอย่าเปิดเผย และขวาจัดแบบสุดๆ ทำให้พรรคนาซันโกงการเลือกตั้งได้อย่างถล่มทลาย รวมไปถึงการนำนโยบายประชานิยมจากเพื่อนสนิทมาใช้ ทำให้พรรคนาซันมี ส.ส.ในสภามากถึง 230 ที่นั่งจากที่นั่งในสภาทั้งหมด 100 ที่นั่ง

หลังจากมี ส.ส.ในและนอกสภามหาศาลแล้ว ประธานาธิบดีพอลจึงตัดสินใจแต่งตั้งซิสเลอร์ให้เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ที่เมืองศีรษะเกต ซึ่งทำให้ซิสเลอร์มีความพึงพอใจมาก แต่ความบ้าอำนาจทะเยอทะยานของซิสเลอร์ไม่หยุดแค่นั้น เมื่อมีการเผาสภาไร้สต๊ากเกิดขึ้น ซิสเลอร์ก็กลับเข้ากรุงเพื่อช่วยฉีดน้ำมันดับไฟ และสถาปนาตนเองเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของ นาซันเยอรมี

สงครามโลกครั้งที่สอง[แก้ไข]

ว่ากันว่า ซิสเลอร์อยากไปเที่ยวปารีสมั่กๆ

เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองได้บังเกิดขึ้นบนโลก โดยที่ซิสเลอร์ไม่ได้ตั้งใจ ซิสเลอร์จึงปราศรัยโจมตีว่าตนกำลังถูกฝรั่งเผือกรังแก จึงต้องป้องกันตัวเองด้วยการยกทัพถล่มฝรั่งเศสเป็นจุล และด้วยความที่ซิสเลอร์มีความใฝ่ฝันอยากไปหอไอเฟลมากๆ จึงได้ยึดเศสฝรั่งเป็นเมืองขึ้นเสียเลย จากนั้นซิสเลอร์จึงได้คิดจะยึดอังเกรียน เนื่องจากเกรียนจัด(ข้ออ้าง)แต่เอมริเกย์มาช่วยไว้ ซิสเลอร์จึงหนีกลับเบอร์ละลินไป ต่อมาซิสเลอร์ได้ต่อเรอรบชือ บิดมาก แต่ว่าหลังออกจากท่าเจ็ดวันเจอเรือบรรทุกเครื่องบินอังเกรียน กับเรือรบ คิง จอด 5 ของอังเกรียนรุมยิงจนบานทะลักเนื่องจากน่าเย่อเกินจนจมไปในที่สุด (สาเหตุทำไมถึงโดนให้ดูรูปล่างๆเอา)

เรือบิดมากของซิสเลอร์ จากสื่อล้างสมองของยุ่นปี่(อย่าได้แปลกใจว่าทำไมถึงได้โดนกองทัพอังเกรียนรุมโทรม)
โทดๆอันนี้ตะหากของจริง

เดี๋ยวมาเขียนต่อ...

ผลงานโดดเด่น[แก้ไข]

เมื่อซิสเลอร์มีความรัก

อย่างที่บอก เขาเป็นวิศวกรที่ออกแบบเรือนจำมาได้ดีมากๆ เนื่องจากมีอัตราการหลบหนีของนักโทษต่ำ เขาได้สร้างเรือนจำสำหรับประหารอาชญากรร้ายแรงโดยเฉพาะ ซึ่งใช้ระบบประหารชีวิตใหม่ที่พาขึ้นสวรรค์ได้ในพริบตา นั่นก็คือก๊าซพิษ นอกจากนี้ เรือนจำของเขายังสามารถรองรับนักโทษได้มากมายมหาศาลโดยใช้พื้นที่ไม่มากนัก

การลำเลียงนักโทษประหารจะใช้รถไฟขนมาลงที่เรือนจำ นอกจากนี้กำแพงเรือนจำยังหนาและแข็งแรงราวกับกำแพงมินาสทิริท ท่อต่างๆก็จะถูกปิดไว้ด้วยกรงเหล็ก นอกจากนี้ยังใช้ระบบไฟฟ้าและเซนเซอร์ในการเตือนภัยอีกด้วย จึงหาคนรอดออกไปได้ยาก

ด้วยความสามารถนี้เอง จึงทำให้เขาถูกกองทัพอังเกรียนจับตัวไปในช่วงที่นาซันเยอรมีกำลังรับมือสหภาพโวเสี้ยต เพราะต้องการให้ซิสเลอร์สร้างเรือนจำอัดคาบ้านและเรือนจำเอาคาถาด ผลก็คือเรือนจำที่แข็งแกร่งสุดๆ ตามสไตล์แก

สัสตู่[แก้ไข]

เห่อหมอย เฟเกอร์ไลค์ เป็นลูกน้องของอะเด้า ซิสเลอร์ แต่ไม่ค่อยเชื่อฟังเขาซักเท่าไหร่เป็นคนเกรียนๆ(แต่ผมเสือกไม่เกรียน)เป็นคนที่ชอบแกล้งซิสเลอร์ตลอดเวลาบางครั้งก็ส่องเลเซอร์ไปที่ตรงนั้นแล้วให้หมากัดทำเอาซิสเลอร์จุกไปหลายวันบางครั้งก็ทำเกมส์กวนตีนๆขึ้นมาแล้วให้ซิสเลอร์เล่น บางครั้งก็แอบยัดปะทัดไว้ใต้ที่นั่ง สารพัดที่มันจะทำได้

รู้หมือไหร่[แก้ไข]

  1. ว่าซิสเลอร์เป็นมังสวิรัต ทำให้มีปัญหาในการอั้นตด
  2. ซิสเลอร์เคยออกกฏหมายห้ามต้มกุ้งทั้งเป็น (เนื่องจากอาหารกุ้งต้มในตอนนั้นจะหย่อนกุ้งตัวเป็นๆ ลงในน้ำเดือดอย่างรวดเร็ว) ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เขาไม่อนุญาตให้ประหารนักโทษด้วยการแขวนคอ
  3. ซิสเลอร์เป็นชาวออสเกรียน เชื้อสายชิวโฮโมเซเปี้ยน
  4. เกย์ซิสเลอร์แต่งงานกับเกย์ ซึ่งชื่อ "กินตด ยูริ2" "จู๋กาชวิลลี่"

เมื่อ(เจ้า)โลกมองซิสเลอร์[แก้ไข]

ซิสเลอร์ชอบกินแตงโมมากๆ
ใครเลยจะรู้ว่าท่านผู้นำติดการ์ตูนสาวน้อยมืดมนมาโดกะ‎เอามากๆ

เขาเป็นที่ถูกเกลียดชังของคนทั่วโลก เพราะเขาล้างบางแดนชนคนอเมริเกย์ไม่ได้เลย แถมยังโดนเดนคนอเมริเกย์ตามกระทืบจนเละไปทั้งตัวด้วยหรรมเองและทั้งประเทศและในประเทศเย่อรมันส์ ผู้คนก็เกลียดชังเขามาก แม้แต่การแสดงสัญลักษณ์สวัสดิกะ หรือการชูมือในลักษณะของการทักทาย Sieg Heil ก็ถือว่าเป็นความผิดทางกฎหมาย (เรื่องจริงนะจ๊ะ)

เป็นที่รู้กันของพวกองครักษ์และคนสนิทว่า เขาสามารถถึงจุดสุดยอดดดดดดดด เมื่อเขาได้กล่าวสุนทรพจน์ และ เรื่องนี้เองที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเหล่าเซ็กซ์โฟนเนอร์ในต่อมา

เหตุผลที่เขายอมรับเทย เข้ามาอยู่ในฝ่ายอักษะนี-วัตสัน ก็เพราะว่าเมื่อครั้งยังเด็ก เขาได้มีโอกาสลองชิมแตงโมอิมพอร์ตจากเทย ซึ่งเขาชอบมันมากๆ และได้ตั้งใจไว้ว่า เมื่อโตขึ้น เขาจะต้องมีแตงโมกินเป็นกองภูเขา และเมื่อหน่วยติดอาวุธพิเศษ Waffen-S.S. ว่างจากการศึกสงคราม ก็จะถูกซิสเลอร์ใช้ให้ไปทำงานเป็นชาวไร่ อยู่ในไร่แตงโมในประเทศเทยแทน และเต้เป็นผู้เชี่ยวชาญ (เพราะประเทศเทยปลูกแตงโมได้ดีมากๆ ยังไงละ) และกลายเป็น หน่วยแตงโมพิเศษ Wassermelone-S.S.

สมัยเป็นวัยรุ่น อะเด้า ซิสเลอร์ มีฐานะไม่ค่อยดีนัก เมื่อเห็นรถหรูๆ ก็ไม่มีปัญญาซื้อ เมื่อเขามีอำนาจ จึงสั่งให้เบนซ์และปอร์เช่ ผลิตรถถังP1000 จะได้ขับรถเหยียบและยิงพวกคนชั้นล่างได้ ด้วยแตงโม ซึ่งหลังจากนั้นมา 70 ปี ก็มีผู้ที่สืบทอดจิตวิญญาณของซิสเลอร์ในข้อนี้ โดยการขับรถเบ็นซ์เหยียบพวกชั้นล่างที่ป้ายรถเมล์ และทำท่าเกร็งมือ กดยิงไกปืนของรถถัง ตามแบบซิสเลอร์ นอกจากนั้น ซิสเลอร์ยังให้ BMW ผลิตมอเตอร์ไซค์ให้ซิสเลอร์ขับ เพื่อสนองความเก็บกดจากวัยรุ่น ซึ่งต่อมาหลังสงคราม มอเตอร์ไซค์ที่ถูกผลิตเป็นจำนวนมากและเหลือจากสงคราม ก็ได้ถูกเหล่าวัยรุ่นซื้อไป และได้กลายมาเป็นเด็กแว้นในที่สุด

ได้แรงบันดาลใจไว้หนวดบนใบหน้าจากแปรงขัดส้วมที่โดนหมาตัวโปรด 'blondie' กลืนไป

วิดีโอคลิปที่เกี่ยวข้อง[แก้ไข]

ท่านผู้นำกับเพื่อนรัก ในยามถังแตก
บทเพลงสรรเสริญทั่นอะเด้า ซิสเลอร์
เมื่อซิสเลอร์โดนกักตัวเพราะโขกวิทย์-19ระบาด

ซิสเลอร์เป็นอะไรมากกว่าที่คุณคิด[แก้ไข]

เสียงวิพากษ์วิจารณ์[แก้ไข]

“ผมอยากจะสร้าง เมก้าซาวะ”

~ สุนทรพจน์ของซิสเลอร์ในวัยเด็ก

“เขาแค่ลองทดลองของเล่นชิ้นใหม่กับ เพื่อนๆ ชาวยิวแค่ไม่กี่ล้านคนเอง”

~ เพื่อน (ไม่) สนิทของซิสเลอร์ กล่าวไว้

“ผมลืมมุงหลังคา ที่กำแพงแอตแลนติก แถวชายหาดเศษฝรั่ง

~ ขุนพลยศเทียบเท่าท่านผู้นั้น กล่าว

“ผมลืมไปว่า การบุกแนวรบตะวันออกของรัสเซีย ผมดันลืมไปว่าการขนส่งบำรุงกำลังไม่ค่อยดีถ้ายิ่งไกล เลยทำให้พ่ายแพ้ เพราะทหารของผมรับของไม่ทัน”

~ ซิสเลอร์กล่าว

“เขาเป็นลูกชายที่ยอดเยี่ยมกระเทียมดองที่สุดที่ข้าพเจ้าเคยเลี้ยงดูมา เขาเจี๋ยนชาวยิวไปตั้ง 6 ล้าน แถมยังฆ่าตัวตายเพื่อมาอยู่กับข้าพเจ้าอีก ข้าพเจ้าภูมิใจกับลูกคนนี้จริงจริ๊ง”

“ผมว่าจริงๆ แล้ว เขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังอมาริเกย์แน่ๆ”

~ ดิ๊ก ชะนี กล่าว

“อย่าไว้ใจคนมีหนวด !!!”

~ หนังสือเรื่อง "สงครามโลกครั้งที่สองสยองขวัญ" จากชุด "ประวัติศาสตร์ โหด มัน ฮา"

“โอ้โฮ หนวดพี่แกนี่มันไม่ธรรมดาจริงๆ นะครับ ไม่ได้ไว้ดกแบบพวกสุภาพบู๊หลุดในยุคนั้น แสดงให้เห็นถึงความบ้าพอกล้าที่จะแตกต่างจากคนอื่น แถมยังพอเพียงอีกด้วย ช่างเป็นหนวดที่เหมาะสำหรับคนมีศิลป์จริงๆ”

“ข้าลืมเขามิได้ เพราะว่าเขาช่วยเราสร้างสุดยอดคุกอย่างคุกไทยด้วย”

~ คอเลียเนียส ฟลัด

“เขานี้แหละที่เป็นต้นแบบให้ผมในการปกครองประเทศเทย

~ จอมผง ป.กล่าว

“เขาลอกหนวดผมอย่างหน้าด้าน!! ทำเสียชื่อหมด!!”

“อะไร มึงเกิดหลังซิสเลอร์ตั้งหลายปี ซิสเลอร์ก็ตายก่อนด้วย แล้วมึงก็ไปเลียนแบบหนวดของซิสเลอร์มา มึงไม่รู้เรื่องเลยหรือนี่ มึงเป็นคนลอกมาเองไม่ใช่หรือ?”

“ไอ้ท่านผู้นั้น ไอ้มั่ว ไอ้ชากรีนกะไอ้ซิสเลอร์มันเกิดปีเดียวกันเฟ้ย แต่ไอ้ชากรีนมันเด้ดหลังไอ้ซิสเลอร์ รู้ป่าว ห๊า!!!”

~ เมสุท โอ้สิว กล่าว (เฮ้ย นักฟุตบอลเกี่ยวกันเร้อะฟระ)

“พ่อกูซิสเลอร์!แม่กูไม่มี!ดราม่าผีนาฮี!!!เทยยันละเมอ!เทยยันละเมอ!”

“เรารักท่าน เพราะท่านสอนให้เรารักประชาชน”

“ท่านคือต้นแบบในการบริหอนประเทศของผม”

“ซิสเลอร์ หรือจะสู้ เซเบอร์

~ เบคเค่นบาวเออร์ อดีตผู้บัญชาการกองกำลังแห่งมิวนิค และกองกำลังเดเอฟเบ

“หรือว่าจะสู้ แคสเตอร์ล่ะครับ”

~ มัทเธอุส อดีตจอมทัพกองกำลังเดเอฟเบ ซึ่งรับใช้ประชาชนมาแต่เจ็ดชั่วโคตรแล้ว

“หรือจะต้องสู้ไรเดอร์หว่า?”

~ พลาตินี่ อดีตจอมทัพและผู้บัญชาการกองกำลังแอฟแอฟแอฟ

“หนวดน่ารักมากคะ.. แต่อิฉันไม่ชอบผู้ชายไว้หนวด”

~ แมวดำนะฮะ~♥

“เห็นชื่อท่านที่ไร เพลง คืนความสุข นี่ลอยมาทุกที”

~ หนอนน้อยโฟคสวาเกน

“ทุกวันนี้ท่านยังปลูกแตงโมที่ด้านมืดดวงจันทร์”

~ ไก่พิฆาตแห่งรัสเซียมิได้กล่าวไว้

ดูเพิ่ม[แก้ไข]